แต่โบราณกล่าวกันว่า “หมากดีที่วัดหนัง เบี้ยขลังต้องวัดนายโรง ไม้ครูคู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมร
วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะทอง แหวนอักขระต้องวัดหนองบัว ลูกแร่ที่วัดบางไผ่ หนุมาน
พ่อสุ่นร้ายหาใดปาน ทุกสิ่งเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแพ้วพาน” ร้อยกรองนี้กล่าวถึง
เครื่องรางวิเศษแต่โบราณทั้ง 10 สิ่ง ที่เชื่อถือกันว่าเป็นสิ่งมงคล มีอานุภาพทางนิรันตราย อันได้แก่ หมากทุยของหลวงปู่
เอี่ยม วัดหนัง, เบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง, ตะกรุดไม้ครูหลวงปู่ภูวัดอินทร์, มีดเทพศาสตราวุธ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ,
ตะกรุดพิสมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย, ลูกอมครั่งพุทรา หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง, ราหูกะลาแกะ หลวงพ่อน้อย
วัดศรีษะทอง, แหวน หลวงพ่อยิ้ม วัดหนองบัว, ลูกอมแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี, และหนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน
ซึ่งในคอลัมน์นี้ผู้เขียนจะน�ำเสนอเรื่องราวของลูกอมครั่งพุทราของหลวงพ่อทองศุขวัดโตนดหลวงจ.เพชรบุรีซึ่งเป็นเครื่องราง
วิเศษมงคลแต่ครั้งโบราณ ที่ปัจจุบันสนนราคาเล่นหาที่ยังไม่แพงนัก น่าสะสมอย่างยิ่ง เบื้องต้นนั้นผู้เขียนจักน�ำเสนอถึงคติ
ความเชื่อเกี่ยวกับครั่งพุทราเสียก่อน ดังนี้
คติความเชื่อของการน�ำเอาครั่งพุทรามาท�ำเป็นเครื่องรางมงคลนั้น สันนิษฐานว่าส่วนหนึ่งมีรากฐานมาจาก
วรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์โดยกล่าวไว้ในตอนหนึ่งว่า “เมื่อทศกัณฐ์พานางสีดาไปนั้น พระรามและพระลักษณ์ได้ออกติดตาม
เมื่อไปถึงต้นพุทราต้นหนึ่ง พระรามได้ถามต้นพุทราว่าได้แลเห็นนางสีดาถูกพาผ่านมาทางนี้บ้างไหม ต้นพุทราก็ตอบว่า ข้าพเจ้า
ได้เห็น และได้เกี่ยวผ้าของนางไว้พยายามอย่างที่สุดที่จะให้นางหลุดพ้นจากอ�ำนาจของยักษ์ร้าย แต่ไม่สามารถจะฉุดรั้งเอา
ไว้ได้ เศษผ้าของนางยังแขวนอยู่กับหนามของข้าพเจ้าเลย แต่ตัวนางได้ถูกยักษ์พาไปแล้ว เมื่อพระรามได้ทรงฟังเช่นนั้นก็
แสดงความยินดีที่ต้นพุทราได้กระท�ำไป พระองค์จึงให้พรว่า พุทราเอ๋ย ข้ายินดีที่เจ้าได้กระท�ำไปเช่นนั้น ด้วยความดีอันนี้
เจ้าจะไม่มีวันตาย แม้ว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะริดรอนถอนรากเจ้าจนเหลือเพียงรากเดียว เจ้าก็จะกลับคืนฟื้นขึ้นมาอีก” ดังนั้นโบราณจารย์
จึงน�ำครั่งที่เกาะกินอยู่บนต้นพุทรา มาท�ำเครื่องรางที่มีอานุภาพทางนิรันตรายและแคล้วคลาดปลอดภัย เช่น ตะกรุดพอก
ครั่งพุทรา ลูกอมครั่งพุทรา หรือแม้กระทั่งวัวธนูที่ท�ำจากครั่งพุทราก็มีซึ่งในต�ำราของสมเด็จพระพนรัตน ได้ระบุไว้อย่าง
ชัดเจนว่า ครั่งพุทราที่มาจากกิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกจะมีอิทธิคุณมาก และยิ่งถ้ากิ่งนั้นเป็นกิ่งที่ตายพรายด้วยแล้ว
เพียงกิ่งเดียวก็จะมีอิทธิคุณมากมายมหาศาลจนพรรณนาไม่รู้จักจบจักสิ้น ซึ่งหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง ตัวท่านเองก็
ใช้ครั่งพุทราที่มีกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก ดังนั้นวัตถุมงคลที่ท�ำด้วยครั่งพุทราของท่านจึงเป็นสิ่งมงคลที่หาได้ยาก และเป็นที่
เสาะแสวงหากันมาตั้งแต่โบราณ
ตามประวัติของหลวงพ่อทองศุขนั้น ท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงพุทธาคม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมือง
เพชรบุรีมาตั้งแต่ยุคสงครามอินโดจีนจวบจนถึงปัจจุบัน โดยขณะที่ท่านอายุได้9 ปีท่านได้เริ่มศึกษาเล่าเรียนที่วัดโพธิ์
อ�ำเภอบ้านลาด นอกจากนี้ยังเรียนศิลปะการต่อสู้เช่น หมัดมวย กระบี่กระบองอีกด้วย ครั้นอายุได้15 ปีจึงย้ายไปอยู่ที่
บ้านเพลง จังหวัดราชบุรีคบพวกเหล่านักเลงอันธพาล และผันตัวเป็นเสือเป็นอันธพาลระบือนามในย่านเพชรบุรีราชบุรี
และสมุทรสงคราม จนต้องหลบหนีอาญาบ้านเมืองไปอาศัยในป่าอย่างอดๆ อยากๆ เป็นเวลาหลายวัน ภายหลังเกิดความ
ส�ำนึกผิดจึงยอมกลับตัวกลับใจเข้าอุปสมบท ณ วัดปราโมทย์อ�ำเภอบางคนฑีจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีหลวงพ่อตาด
วัดบางวังทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้32 ปี(หลวงพ่อทองศุขเป็นศิษย์รุ่นน้องของหลวงพ่อคง
วัดบางกะพ้อม) โดยได้จ�ำพรรษาอยู่ที่วัดปราโมทย์เป็นเวลา 4 พรรษา ต่อจากนั้นก็ออกธุดงค์ไปกับสามเณรจันทร์
(ภายหลังคือ พระครูจันทร์ธมฺมสโร เจ้าอาวาสวัดมฤคทายวัน) หลังจากธุดงค์ไปหลายจังหวัดแล้วในที่สุดก็กลับมาที่ต�ำบล
บางเก่า อ�ำเภอชะอ�ำ ซึ่งในขณะนั้นวัดโตนดหลวงก�ำลังขาดสมภารเจ้าอาวาส ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านไปอยู่วัดโตนดหลวงเพื่อ
ให้ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าอาวาส เมื่อราวปีพ.ศ.2448 ซึ่งท่านได้บ�ำเพ็ญประโยชน์ต่อพระศาสนายังความเจริญให้เกิดแก่ท้องถิ่น
และชุมชนมากมาย ทางคณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ท่านเป็น พระครู, พระอุปัชฌาย์, และในที่สุดก็ได้รับสมณศักดิ์เป็น
“พระครูพินิจสุตคุณ” ซึ่งชื่อเสียงของท่านนั้น เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในช่วงสงครามอินโดจีน โดยท่านได้รับนิมนต์ให้
เป็นหนึ่งในพระเกจิจ�ำนวน 108 รูป ที่นั่งปลุกเสกพระพุทธชินราชอินโดจีน ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ เมื่อปีพ.ศ.2485
ภายหลังท่านถึงแก่กาลแก่มรณภาพ เมื่อปีพ.ศ.2500 สิริรวมอายุได้81 ปีพรรษา 52
การสร้างวัตถุมงคลจากครั่งพุทรานั้น สันนิษฐานว่าท่านเรียนมาจาก หลวงพ่อชม วัดดอนกอกอ.บ้านลาดจ.เพชรบุรี
ซึ่งท่านจะใช้ครั่งพุทราตายพรายที่กิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออกด้วยเพราะมีอิทธิคุณมากในทางแคล้วคลาดนิรันตราย ซึ่งวัตถุ
มงคลที่สร้างด้วยครั่งพุทราของหลวงพ่อทองศุขนั้น ท่านจะผสมว่านสมุนไพรต่างๆ ที่มีสรรพคุณในทางถอดถอนพิษร้าย
ทั้งยังผสมผงพระจันทร์ครึ่งซีก ที่พุทธคุณสุดยอดทางเมตตามหานิยมอีกด้วย โดยคาถาที่ใช้อาราธนาวัตถุมงคลที่ท�ำจากครั่ง
พุทราของหลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง มีดังนี้
“นะโมพุทธายะ นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู อะคือตัวกู อุคือคนทั้งหลาย อะจะท�ำอะไรกูได้
อุมนุษย์ศรัทธา ด้วยนะโมพุทธายะ อะระหังพุทโธ พุทธะสังมิ อิสวาสุ” จากนั้นจึงตั้งจิตร�ำลึกถึงหลวงพ่อทองศุข
แล้วอธิษฐานตามแต่จะปรารถนาเถิด..
หลวงปู่ทวดเนื้อครั่งพุทรา หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
฿1,300.00
พระหลวงปู่ทวดเนื้อครั่งพุทรา หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี อดีตเกจิย์ ฯ ดัง ที่คนเมืองเพชรเล่าขานต่อกันมาว่า “แมลงวันไม่ได้กินเลือด” ถ้าหากชีวิตยังไม่ตาย “ต้องหามาคู่กายให้ได้” เพราะพุทธคุณเหลือคณานับดั่งชื่อ “ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง” …องค์นี้นำมาจากพื้นที่วัดโตนดหลวง เก่าจากที่โน่น มาใหม่ที่นี่ 1,300.- บาทเดียวครับ.
หมวดหมู่: พระภาคใต้, พระเนื้อว่าน
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
฿2,000.00
พระเนื้อว่าน
฿2,000.00
฿1,700.00
฿1,000.00
พระภาคใต้
฿800.00
฿2,500.00
พระเนื้อว่าน
฿2,500.00