พระพุทโธน้อย พิมพ์ใหญ่ หลังยันต์เฑาะว์ เนื้อดิน วัดสารนาถธรรมาราม ปี 2499
เมื่อพระพิมพ์นี้จัดสร้างเสร็จตามจำนวนแล้ว ได้นำไปปลุกเสกพิธีใหญ่ เมื่อวันที่ 5 ถึง 31 มีนาคม พ.ศ.2499
กำหนดการปลุกเสก ทั้งสิ้น 18 วัน 18 คืน โดยมีพระเกจิอาจารย์สายกรรฐานชื่อดังในยุคนั้น อาทิ
ท่านพ่อลี วัดอโศการาม หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโล หลวงปู่ขาว
วัดถ่ำกลองเพล หลวงปู่ดุลย์ วัดพูรพาราม หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) วัดบวรนิเวศวิหาร
พระวรเวทย์คุณาจารย์ (เมี้ยน ปภสสโร) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และคุณแม่บุญเรือนฯ อธิฐานจิิต
พระพุทโธน้อยหลังยันต์ที่ออกจากวัดสารนารถ ระยองนั้น จะมีทั้งหลังเรียบ หลังยันต์เฑาะว์ และหลังยันต์เฑาะว์บนดอกบัว มีทั้งเนื้อดิน และเนื้อผง(มีน้อย) เป็นพระที่น่าใช้บูชามากที่สุดของคุณแม่ ผมเชื่อว่าดีที่สุดในบรรดาพระพุทโธน้อยของทุกวัด บูชาอธิษฐานได้ผลเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับหลังพุทโธ ไม่ว่าจะพิมใพ์จัมโบ้หรือพิมพ์อะไรแบบแพงๆ แค่พระพุทโธน้อยหลังเฑาะว์ดอกบัวองค์เล็กๆสึกๆของวัดสารนารถฯที่ผมติดตัวอยู่ ก็ให้ผลดีแทบทุกเรื่องที่ได้อธิษฐานขอ และเป็นแบบนี้มานานจนเก็บของวัดอาวุธลงกล่องไว้นานแล้ว ที่หวงไว้ให้ลูกหลานจะเป็นหลังพิมพ์ใหญ่ยันต์เฑาะว์และเฑาะว์บนดอกบัวพิมพ์เล็ก
เพราะได้นำเข้าร่วมในพิธีประชุมอรหันต์อีก18วันที่วัดสารนารถฯในปี2499 เป็นพิธีที่ถือๆได้ว่ามีพระอรหันต์ระดับสูงสุดของประเทศไทย มารวมตัวกันมากที่สุดนับตั้งแต่เป็นร้อยๆปีที่ผ่านมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิษฐานจิตให้กับวัตถุมงคลเพื่อเป็นการสร้างสิ่งสักการะในยุคกึ่งพุทธกาล หากไปดูบันทึกการสร้างก็จะเข้าใจถึงเจตนาการจัดพิธีนี้อย่างดี หากคิดด้วยสติและวุฒิภาวะก็จะรู้ว่า นี่คือที่สุดของการอธิษฐานให้เกิดของศักดิ์สิทธิ์เพื่อการนำไปบูชาในวันหน้าที่พุทธศาสนาจะค่อยๆเสื่อมลงและคนจะมีภัยในหลายๆด้าน และพระพุทโธน้อยรุ่นนี้ยังมีการเข้าพิธีมาอีกสองครั้งที่กรุงเทพ(รวมทั้งคุณแม่บุญเรือนได้อธิษฐานให้ด้วย) ก่อนจะนำมาที่วัดสารนารถฯ แต่ผมถือให้พิธีประชุมอรหันต์ในปี2499 เป็นพิธีสำคัญที่สุดอันจะก่อผลต่อการอธิษฐานจิตกับวัตถุมงคล
แต่แน่ใจหรือว่า ท่านอธิษฐานด้วยธรรมฤทธิ์เพียงครั้งเดียว ลองอ่านบันทึกเพิ่มเติมให้ครบถ้วนทั้งหมดรวมทั้งเมื่อคราวสร้างพระพุทโธองค์ใหญ่ให้วัดสารนารถฯดีๆ คุณแม่บุญเรือนได้บันทึกไว้ว่า “ดิฉันได้อธิษฐานมา ๔ วัน ตั้งแต่วันศุกร์มาถึงวันจันทร์กลางคืน ได้อัญเชิญธรรม ที่พระเดชพระคุณอธิษฐานเมื่อครั้งตั้งพระประธาน และสวมพระรัศมี วันนั้นเทวดาได้ถอนมาให้ แต่ของพระเดชพระคุณได้ลอยอยู่บนนภากาศ ดิฉันได้อัญเชิญประจุองค์พระพุทโธองค์นี้ ให้พระเดชพระคุณแล้ว แต่พระเดชพระคุณจะปรารถนาให้โบสถ์แล้วเร็วๆ แต่พระพุทโธองค์นี้ดิฉันถวายพระเดชพระคุณ เพื่อช่วยในด้านศาสนาให้เจริญด้วย ขอให้พระเดชพระคุณอาราธนาไปพร้อมกับทอดผ้าป่าด้วย เพื่อจะได้ประโยชน์กับวัดสารนารถและพระเดชพระคุณด้วย พุทธบริษัท ๔ จะได้เจริญรุ่งเรือง สุกใสตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ”
ซึ่งเมื่อไล่อ่านรายละเอียดทั้งหมด ก็จะไปตรงกับพิธีพุทธาภิเษกพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนี(ครั้งแรก)ที่วัดสัมพันธวงศ์ 4 วัน 4 คืนรวด ระหว่าง วันที่ 3 – 6 มีนาคม พ.ศ. 2499 และบันทึกนี้ทำให้เหรียญจอมมุนีปี 2499 แพงเป็นแสนบาทในเวลานี้ และผู้ที่ไปสร้างเหรียญจอมมุนี ก็ยังได้สร้างพระผงจอมมุนีไว้พร้อมๆกันด้วยอีก 500 องค์ เป็นผงว่านผสมดิน(ท่านเจ้าคุณผู้สร้าง อยู่วัดตรีรัตนาราม ระยอง และเป็นผู้เล่าให้ฟังนานแล้ว) และหากรู้ข้อมูลวงในลึกๆแล้วจะพบว่า พระพุทโธน้อยวัดอาวุธ ไม่ได้สร้างครั้งเดียวตามที่เขียนลอกต่อๆกันมา หลังคุณแม่สิ้นไปแล้ว ก็ยังมีการสร้างออกมาอีกหลายครั้ง แม้แต่การแตกกรุของบางวัดก็ยังถกเถียงกันไม่จบในเวลานี้ว่า แท้แบบทันคุณแม่ทั้งหมดทุกองค์จริงหรือไม่ ทุกวันนี้…สติและวิจารณญาณของผู้มีวุฒิภาวะ ก็ยังเป็นเรื่องที่มีไม่เท่ากันในแต่ละคนจริงๆ
ขออนุญาตคัดบทความของคุณ”เนาว์สถิตย์” มาลงไว้ดังนี้
” จากหลักฐานของจริง ซึ่งเป็นบันทึกตั้งแต่คุณแม่บุญเรือนยังมีชีวิตอยู่ ระบุไว้ชัดเจนว่า การอธิษฐานธรรมพระพุทโธน้อยรุ่นแรกเมื่อปีพ.ศ. 2494 นั้น ทำกันแค่ “3” วันเท่านั้น
นั่นคือระหว่างวันที่ 11 – 13 กันยายน พ.ศ. 2494
“พระพุทโธน้อย หลังยันต์เฑาะว์”(ตราประจำวัดสัมพันธวงศ์)ที่ คุณแม่บุญเรือนสร้างถวายบูชาคุณพระอาจารย์ของท่าน นั่นก็คือพระมหารัชชมังคลาจารย์ วัดสัมพันธวงศ์เมื่อปีพ.ศ. 2494 จำนวน 2,000 องค์ และได้นำมาเข้าพิธีซ้ำคราวฉลองพระพุทโธภาสชินราชจอมมุนีในปีพ.ศ. 2499 อีก 22 วัน(พิธีวัดสัมพันธวงศ์ 4 วัน + พิธีที่วัดสารนาถธรรมารามอีก 18 วัน) ซึ่ง เป็นพระพุทโธน้อยพิมพ์เดียวชุดเดียวที่คุณแม่บุญเรือนอธิษฐานมากครั้งที่สุด และนานที่สุดยิ่งกว่าพระพุทโธน้อยทุกแบบทุกพิมพ์ (แม้จะเป็นพระพุทโธน้อยพิมพ์จัมโบ้ที่เช่าหาองค์ละเกือบครึ่งล้านในปัจจุบัน ที่อธิษฐาน 3 วันในปีพ.ศ. 2494 พิธีเดียว)ด้วยประการทั้งปวง
ขอบคุณที่มา คุณ หนุ่มเมืองแกลง