พระปิดตาพิชัย กรุคลองตะเคียน อยุธยา เนื้อผงใบลาน
… พบครั้งแรกในราวสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่บ้านคลองเคียน ตำบลคลองตะเคียน เป็นตำบลเก่าแก่ มีมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งสถานที่ตั้งตำบลมีลำคลองใหญ่ เคยมีต้นตะเคียนขนาดใหญ่ขึ้นอยู่บริเวณปากคลองด้านทิศตะวันออก ในสมัยโบราณใช้เป็นเส้นทางล่องซุงทำไม้ ดังนั้นจึงได้เรียกชื่อตำบลตามชื่อลำคลองว่าตำบลคลองตะเคียน โดยพบพระเรี่ยอยู่ตามพื้นดิน กระจายอยู่ทั่วไป ตามวัดต่าง ๆในบริเวณย่านนั้น ทั้งวัดคลองตะเคียน วัดพิชัย และบริเวณวัดประดู่ ฯ ที่เรียกขานกันว่า “พระกริ่ง” เพราะด้วยลักษณะขององค์พระซึ่งเมื่อเขย่าแล้วเกิดเสียงดัง ส่วนคำว่า “คลองตะเคียน” คือแหล่งกำเนิดที่พบองค์พระครั้งแรกนั่นเอง ส่วนผู้สร้างนั้นสันนิษฐานว่าพระเถระในสมัยอยุธยาเรื่อยมาจนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสร้างตามแบบพระคงเมืองลำพูน เนื้อพระกริ่งคลองตะเคียนสมัยอยุธยาเป็นพระเนื้อดินเผาดำ เป็นการจงใจเผาให้เกิดสีแบบนั้น มีความแข็งแกร่งและมันหนึก การจารอักขระที่ด้านหลังพระจะลึก ตามซอกอักขระมักมีไขขาวเกาะแน่น บางองค์ก็มีสีน้ำหมากเกาะติด ทั้งยังเป็นการสร้างโดยพระเกจิรูปเดียวอีกด้วย เนื่องจากลายมือในการจารยันต์อักขระเป็นลายมือเดียวกัน ส่วนกรรมวิธีการบรรจุกริ่ง เม็ดกริ่งนี้ต้องทำ ขึ้นเป็นเวลานาน จนเม็ดกริ่งแห้งและแข็ง เม็ดกริ่งมีลักษณะเป็นรูปมน ๆ รี ๆ ไม่กลม สีออกเป็นสีเทา เนื่องจากคงจะใช้เนื้อดินที่จะสร้างพระกริ่งนี้ผสมกับผงวิเศษ ซึ่งได้จากการจารตัวยันต์ ตามพระสูตรทางวิชาไสยศาสตร์ โบราณ แล้วลบนำผงนี้มาผสมกับดินให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นเม็ด กริ่งจำนวนมาก เม็ดกริ่งนี้จึงเป็นเม็ดกริ่งซึ่งทำจากเนื้อดิน ซึ่งผสมดินผงสีเศษสีขาว เม็ดกริ่งจึงมีสีออกเทา การพิมพ์พระนั้นเมื่อใช้ดินกดลงบนแม่พิมพ์เรียบร้อยแล้ว จีงแต่งด้านหลัง ให้มนโค้งดีแล้ว จึงใช้ไม้ลักษณะกลม เป็นแท่งยาว ๆ แทรกตรงก้นพระแล้วยกออกจากแม่พิมพ์ ในขณะนี้เนื้อพระยังไม่แห้งจีงถือไม้ไว้และปลายบนไม้มีองค์พระกริ่ง จีงเขียนตัวยันต์ ลงทางด้านหลังขององค์พระตามความประสงค์ของการเขียนตัวยันต์แล้ว จีงถอดเอาไม้ออก จะมีรูที่ก้นองค์พระ จึงทำเม็ดกริ่งบรรจุเข้าไปแล้วบีบปิด ปากรูให้สนิท วิธีนี้เป็นการบรรจุเม็ดกริ่งและจารตัวยันต์ ของพระกริ่ง คลองตะเคียนพิมพ์หน้าเดียว ส่วนพระกริ่งพิมพ์สอง หน้านั้น ที่ด้านกันพระจะมีลักษณะคล้ายวงกลม ใช้ไม้แทงตรงกลางของวงกลม แล้วนำพระออกจากแม่พิมพ์ และเขียนจารตัวยันต์ทางก้นพระ นี้ประมาณ ๔ ตัว นอกนั้นจะจารตัวยันต์ตามด้านข้างๆ ขององค์พระ และเมื่อถอดไม้ออกแล้ว จึงนำเม็ดกริ่งที่แห้งซึ่ง เตรียมไว้แล้วบรรจุเม็ดกริ่งลงไปในรูและปิดปากรูให้เรียบร้อย แล้วนำองค์พระเหล่านั้นมาตากแดด และผึ่งลมให้แห้ง แล้วจึงนำไปสุมไฟ จะได้องค์พระกริ่งคลองตะเคียน เนื้อดินซึ่งเป็นกรรมวิธีการสร้างพระตามตำราโบราณ
… พระกริ่งคลองตะเคียนมีทั้งพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก และพิมพ์ปิดตา ที่เรียกกันว่าปิดตาพิชัย ในแต่ละพิมพ์ก็จะแบ่งไปได้อีกหลายบล็อก มีทั้งพิมพ์หน้าเดียว และพิมพ์สองหน้า บางองค์ไม่มีกริ่งก็เคยปรากฏ พิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ พิมพ์หน้าใหญ่ไหล่ยก
พระกริ่งคลองตะเคียน มีพุทธคุณเป็นเลิศในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี โดยเฉพาะเรื่องเขี้ยวงานั้นถือว่าสุดยอด จนโบราณจารย์มีคำกล่าวเปรียบเปรยถึง พระกริ่งคลองตะเคียนไว้ว่า “หน้าใหญ่ ไหล่ยก อกต่ำ ผิวดำสนิท กันเขี้ยวขออสรพิษ ต้องคลองตะเคียน”